W3C
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สถาปนาครบรอบ 72 ปี นำเทคโนโลยีขับเคลื่อนสหกรณ์เข้มแข็ง
ครบรอบ 72 ปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้านำเทคโนโลยีและ นวัตกรรมทางการเงิน ขับเคลื่อนงานให้บริการสหกรณ์และสมาชิก ก้าวสู่ สหกรณ์ยุคใหม่
วันที่ 11 มีนาคม 2567
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง "เทคโนโลยีกับการขับเคลื่อนสหกรณ์เข้มแข็ง เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของสหกรณ์และเกษตรกร ให้สามารถใช้ข้อมูลทางบัญชีในการบริหารจัดการ โดยการส่งเสริมและผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พัฒนาขึ้น พร้อมมอบโล่รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่นกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ประจำปี 2566 และปาฐกถาพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 72 ปี การสถาปนากรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 10 - 12 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญต่อการนำระบบสหกรณ์เป็นกลไกในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ โดยคาดหวังว่าจะเป็นองค์กรที่ช่วยส่งเสริมให้สมาชิกมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ให้แก่สถาบันสหกรณ์เกษตรกรและประชาชน เพื่อประโยชน์ในการใช้ข้อมูลทางการเงินมาวิเคราะห์อย่างง่าย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนพยากรณ์อนาคต และตัดสินใจดำเนินธุรกิจของสหกรณ์และของตนเอง ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งในการยกระดับศักยภาพของผู้บริหารในการใช้ข้อมูลทางการเงินมาบริหารจัดการ สร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้แก่สถาบันสหกรณ์ ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร รวม 9,653 แห่ง จำนวนสมาชิก 11.97 ล้านคน ทั้งนี้ได้มอบหมายให้
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านบัญชีที่เป็นประโยชน์มา
สนับสนุนการดำเนินงานในสหกรณ์และให้บริการสมาชิก เพื่อช่วยสร้างความเข้มแข็งทางการเงินการบัญชีและพัฒนาสู่สหกรณ์ที่มีความทันสมัย สร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก ซึ่งกรมฯ ได้มีการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ
นวัตกรรม SmartMember
ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้สมาชิกสหกรณ์สามารถตรวจสอบฐานะทางการเงินของตนเองได้ตลอดเวลา สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลสหกรณ์ และลดความเสี่ยงการเกิดทุจริตได้ ขณะนี้ มีจำนวนผู้เข้าใช้งานแล้ว 230,942 ราย นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีและโปรแกรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร นำไปใช้พัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น
"การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาส่งเสริมในการตรวจสอบบัญชีของสหกรณ์ นั้น เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องขับเคลื่อนเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก อีกทั้งได้มอบหมายให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำงานควบคู่กันเพื่อพัฒนาสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร ให้เกิดความเข้มแข็ง เนื่องจากสหกรณ์มีตัวเลขหมุนเวียนกว่า 4 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นเม็ดเงินก้อนโต ดังนั้น จะทำอย่างไงให้เม็ดเงินก้อนนี้เติบโต และสร้างความเข้มแข้งให้กับสมาชิกของสถาบันเกษตรกรนั้นๆ
รมว.กษ. กล่าว
นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านการเงินและการบัญชีของสหกรณ์กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน โดยปฏิบัติภารกิจหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งตามแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อมุ่งหวังให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สามารถใช้ข้อมูลทางการเงิน ในการวางแผนบริหารจัดการ มีระบบการควบคุมภายในที่ดี และมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาสู่การพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง โดยกรมฯ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานในการป้องกัน ป้องปรามการทุจริต และยกระดับสหกรณ์ ผ่านโครงการเร่งด่วน อาทิ การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทุจริต 10 เขตทั่วประเทศ และศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการเงินและการบัญชี 77 จังหวัด การพัฒนาความเข้มแข็งและยกระดับการควบคุมภายในของสหกรณ์ ดำเนินการไปแล้ว 200 แห่ง และการตรวจประเมินการควบคุมภายในเพื่อป้องกันความเสี่ยงการทุจริตด้านดิจิทัลในสหกรณ์การเกษตร 1,500 แห่ง ทั้งนี้ กรมฯ ได้พัฒนามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานให้ทันต่อสากลและสถานการณ์เพื่อให้ผู้บริหารสหกรณ์มีสารสนเทศประกอบการตัดสินใจ ลดความเสี่ยง ป้องปรามการทุจริต สหกรณ์มีความเข้มแข็ง ซึ่งตลอดระยะเวลา 72 ปี กรมฯ ได้ขับเคลื่อนเทคโนโลยี สร้างสรรค์อนาคต ผ่านนวัตกรรมทางบัญชีต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้สหกรณ์สามารถเข้าถึงข้อมูลการจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิ
โปรแกรมเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร CFSAWS:ss Version
2 ซึ่งกรมฯ ได้มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาซึ่งโปรแกรมดังกล่าว เป็นเครื่องมือเตือนภัยและตรวจสุขภาพทางการเงินได้ด้วยตนเองที่ใช้เวลาเพียง 1 นาที ในการประมวลผลข้อมูลทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร โดยจะส่งสัญญาณภาพ 4 ระดับเพื่อให้รู้เท่าทันสถานการณ์ทางการเงินความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อการดำเนินงานกระตุ้นการปรับแก้ไขได้ทันการณ์ทันเวลา ทำให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรพัฒนาระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรใช้โปรแกรมแล้วจำนวน 1,417 แห่ง
โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS)
เพิ่มศักยภาพการจัดทำบัญชีแก่สหกรณ์ อำนวยความสะดวก และเป็นเครื่องมือให้กับสหกรณ์ใช้ในการบริหารจัดการสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ใช้โปรแกรมแล้ว จำนวน 1,802 แห่ง
นวัตกรรมด้านการเงินการบัญชี Smart4M
แอปพลิเคชันระบบบัญชีที่เข้าถึงง่าย สะดวก ทันต่อสถานการณ์ และมีการเชื่อมโยงข้อมูลให้สามารถนำข้อมูลทางบัญชีไปใช้บริหารสหกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ SmartManage สำหรับคณะกรรมการใช้ข้อมูลบริหารงานสหกรณ์ SmartMonitor ผู้ตรวจสอบกิจการใช้ข้อมูลติดตามความเคลื่อนไหวความผิดปกติทางการเงิน และ SmartMember สำหรับสมาชิกสหกรณ์ได้มีเครื่องมือตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของตนเองสร้างการมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลสหกรณ์ ลดโอกาสในการทุจริตได้ ซึ่งปัจจุบัน มีผู้เข้าใช้งานแล้ว จำนวน 230,942 คน
ศูนย์ข้อมูลสถานการณ์ทางการเงินภาคสหกรณ์ไทย
แหล่งข้อมูลทางการเงินของสหกรณ์ไทยที่บูรณาการเชื่อมโยงข้อมูล
Big Data กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และหน่วยงานภาครัฐได้รับรู้ถึงการขับเคลื่อนของภาคสหกรณ์ไทยต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและให้สหกรณ์ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้วยการนำไปวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินสถานภาพความผิดปกติทางการเงินแนวโน้มการบริหารธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กล่าวอีกว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 72 ปี แห่งการสถาปนากรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในปี 2567 กรมฯ จึงได้จัดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ภายใต้ชื่องาน "เทคโนโลยีกับการขับเคลื่อนสหกรณ์เข้มแข็งระหว่างวันที่ 10 - 12 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการนำเสนอผลงานในรอบปีที่ผ่านามาพร้อมทั้งพัฒนาความรู้ของบุคลากร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และวิทยาการใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสหกรณ์ได้รับความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์พัฒนาขึ้นเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินการบัญชีสามารถบริหารสหกรณ์ให้เข้มแข็งอีกทั้งได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ตลอดจนร่วมแสดงความยินดีในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณและโล่รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ประจำปี 2566 นอกจากนี้ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง "Data Analytic : การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อการบริหาร โดย วิทยากรจากภาคเอกชน
การเสวนา หัวข้อ "การบริหารสหกรณ์ด้วยข้อมูลทางการเงินการบัญชี โดยผู้แทนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และผู้แทนสหกรณ์การบรรยาย เรื่อง "กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กับเทคโนโลยีเพื่อการสร้างมูลค่า โดยวิทยากรจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
"ภารกิจสำคัญของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ คือ การตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นและมีความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการทำให้กรมต้องวางแผนรับมือและปรับเปลี่ยนเพื่อให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงหรือเติบโตของสหกรณ์ที่สำคัญ คือ ปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ถือเป็นความท้าทายที่กรมต้องยกระดับ
การทำงานสอบบัญชีให้ทันต่อมาตรฐานสากล ต้องพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยในการตรวจสอบและส่งเสริมให้สหกรณ์เห็นความสำคัญของระบบการควบคุมภายในที่ดีเพื่อป้องกันความเสี่ยง รวมไปถึงการส่งเสริมและผลักดันให้มีผู้ทำบัญชีที่มีความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพเพื่อให้สหกรณ์เข้มแข็งอย่างยั่งยืน อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว
หน้าหลัก
เกี่ยวกับเรา
ประวัติ
อาคารอนุรักษ์
ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
ค่านิยมหลัก
วัฒนธรรมองค์กร
ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง
ศูนย์ข้อมูลทางการเงิน
สารสนเทศทางการเงิน
สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร
เครื่องมือทางการเงิน
(โปรแกรมทางการเงิน)
ระบบบริการข้อมูลสารสนเทศ
ทางการเงิน
โครงการสำคัญ
เครือข่ายครูบัญชี
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
เว็บไซต์หน่วยงาน
Intranet
การบัญชีและสอบบัญชี
สอบบัญชีภาคเอกชน
ประมวล คำสั่ง ระเบียบ คำแนะนำ
และหนังสือเวียนต่าง ๆ
ระบบบัญชี
ตรวจสอบกิจการสหกรณ์
ระบบสารสนเทศรายการย่อแสดง
สินทรัพย์และหนี้สินสหกรณ์ (CAD_ASSET)
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติ
พระราชกฤษฎีกา
กฏกระทรวง
ประกาศต่าง ๆ
คำสั่ง
ระเบียบ
อื่นๆ
สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
|
นโยบายเว็บไซต์
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
|
การปฏิเสธความรับผิด
การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel