Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมสนับสนุน
องค์ความรู้ผู้ตรวจสอบกิจการ เพื่อก้าว
ทันการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสหกรณ์
     นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า ผู้ตรวจสอบกิจการ ถือเป็น
บุคคลสำคัญที่ทำหน้าที่ในสหกรณ์ หากสหกรณ์ใดมีผู้ตรวจสอบกิจการที่เข้มแข็งและมีความรู้ ก็
จะทำให้มั่นใจได้ว่า กิจการของสหกรณ์นั้น ๆ จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ กฎ ข้อบังคับ และมีความ
เสี่ยงในการประกอบกิจการน้อย ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในการฝึก
อบรมให้กับผู้ตรวจสอบกิจการ มีหลักสูตรเสริมศักยภาพให้กับผู้ตรวจสอบกิจการได้รับความรู้ใน
การที่จะเข้าไปตรวจสอบกิจการของสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ดูบัญชีได้ ใช้บัญชีเป็น รู้จัก
ประเมินกิจกรรมต่างๆ อันจะเป็นความเสี่ยงต่อการดำเนินกิจการของสหกรณ์ได้ รู้จักปัจจัยทาง
เศรษฐกิจและสังคมที่จะนำมาใช้วิเคราะห์ว่า หากจะดำเนินธุรกิจใดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จะเหมาะสม
กับสหกรณ์มากน้อยเพียงใด
     "ผู้ตรวจสอบกิจการ จะต้องมีความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับคณะกรรมการบริหารของสหกรณ์ โดย
ผู้ตรวจสอบกิจการนั้น ที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์จะเป็นผู้เลือกตั้ง ซึ่งอาจจะมาจากสมาชิกของ
สหกรณ์ หรือเลือกจากบุคคลภายนอกเข้ามาก็ได้ แต่บุคคลที่จะมาทำหน้าที่นั้น ต้องผ่าน
การอบรมในหลักสูตรผู้ตรวจสอบกิจการจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์มาแล้ว โดยกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์
มีความเห็นว่า หากจะให้การตรวจสอบกิจการของสหกรณ์ดำเนินไปได้อย่างดีทุกปี ควร
ให้ผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ได้รับการฟื้นฟูความรู้และรับการถ่ายทอดประสบการณ์
หรือสาระอันเป็นประโยชน์ในการที่จะไปปรับปรุงหรือดูแลกิจการสหกรณ์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
เพื่อให้ก้าวทันธุรกิจของสหกรณ์ที่เปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อการ
แข่งขันกับธุรกิจของภาคเอกชนที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับสหกรณ์” นายโอภาส กล่าว
นายโอภาส กล่าวอีกว่า เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ ส่วนใหญ่จะมาจากการฝาก
ถอน กู้ ยืม ซึ่งไม่สามารถไปแข่งขันกับสถาบันการเงินภาคเอกชนได้ เพราะแนวทางบริหารจัดการ
และการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของภาคเอกชนจะไม่ยุ่งยากเหมือนกับการบริหารจัดการของระบบ
สหกรณ์ เช่น การปล่อยกู้ของภาคเอกชนจะง่ายกว่าสหกรณ์ จึงช่วยลดอุปสรรคในการเข้า
ถึงแหล่งเงินทุนของผู้กู้ได้ อีกทั้งเอกชนมีระบบการตีมูลค่าหลักทรัพย์ตามความเป็นจริง มีรูปแบบ
การบริหารจัดการที่เน้นความรวดเร็ว
และมีระบบการติดตามแบบทันทีทันใด เข้าถึงตัวบุคคล ซึ่ง
จะแตกต่างจากระบบการบริหารจัดการของสหกรณ์ ที่หากสมาชิกจะกู้ยืม ต้องค้ำประกันตัวเอง
โดยใช้เงินหุ้นของผู้กู้เป็นหลักประกัน ซึ่งในรูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ
ใช้ตัวบุคคลค้ำประกัน
ในกรณีนี้มักจะพบว่าเจอปัญหาในหลายแห่ง โดยเฉพาะในสหกรณ์ที่
สมาชิกผู้กู้สังกัดอยู่นั้นมีปัญหาเกิดขึ้น ก็จะทำให้มีผลกระทบต่อผู้กู้และผู้ค้ำประกันไปพร้อมๆ กัน
ซึ่งจะนำมาสู่ความไม่แน่นอนในการชำระเงินกู้ที่มีอยู่กับสหกรณ์นั้น ๆ ได้ รูปแบบที่ 3 คือการใช้
หลักทรัพย์ค้ำประกัน
ซึ่งในกรณีนี้ พบว่า ในบางสหกรณ์มักจะมีการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ไม่
เป็นตามราคาที่แท้จริง จึงทำให้มูลหนี้กับมูลค่าหลักทรัพย์ไม่เท่าเทียมกัน เมื่อเกิดปัญหา ผู้กู้จึง
ไม่สามารถชำระหนี้ได้ หลักทรัพย์ที่ยึดคืนได้จึงด้อยกว่ามูลหนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งจะนำมาสู่ความ
เสียหายแก่สหกรณ์ในที่สุด แต่ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้ตรวจสอบกิจการสามารถช่วย
วิเคราะห์วางแผนให้กับสหกรณ์เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคตได้ สามารถประเมินความ
เสี่ยงได้ว่า ในกิจกรรมของสหกรณ์นั้น เรื่องใดมีความเสี่ยงหรือต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างไร เมื่อผู้
ตรวจสอบกิจการ ได้ตรวจสอบพบก็ให้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์
เพื่อพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป โดยปัจจุบัน ปัญหาที่พบมากคือการทุจริตราย
บุคคลที่สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ
เช่น การปลอมลายมือชื่อ การรับฝากเงินแล้วไม่นำฝาก
จริง เป็นต้น กรณีแบบนี้ ผู้ตรวจสอบกิจการสามารถสอดส่องดูแลพฤติกรรมของทุกคนที่มีส่วน
เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกทุกคนว่าได้รับการดูแล
จากสหกรณ์เป็นอย่างดี
     "กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีนโยบายที่จะพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ให้มีความรู้ความ
สามารถในด้านการตรวจสอบกิจการสหกรณ์โดยเปิดอบรมเสริมศักยภาพให้กับผู้ตรวจสอบกิจการ
อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
เพื่อปรับปรุงข้อมูลทุก ๆ ปี เนื่องจากในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ
อยู่ตลอดเวลา หากมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ
ได้ นอกจากนี้ หากมีหน่วยงานใดในขบวนการสหกรณ์จัดอบรมเพิ่มเติม ทางกรมตรวจบัญชี
สหกรณ์ก็พร้อมส่งวิทยากรไปร่วมให้ความรู้” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย.
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel