นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ สถาบัน
เกษตรกร เกษตรกร และประชาชน โดยการนำระบบบัญชีไปใช้ในการบริหารจัดการสู่ความสำเร็จ
มีระบบบริหารจัดการด้านการเงิน การบัญชีที่โปร่งใสและเข้มแข็ง โดยมีภารกิจหนึ่งที่สำคัญ คือ
การตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ให้มีความเข้มแข็ง เป็นมาตรฐานสากล และกำกับ
ดูแลการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและตามที่นายทะเบียนสหกรณ์
กำหนดอย่างตรงไปตรงมา ส่งผลประโยชน์สู่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั้งประเทศ
ประมาณ 12,500,000 คน ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีผู้สอบบัญชีจำนวนทั้งสิ้น 756 คน
ประกอบด้วยผู้สอบบัญชีที่เป็นข้าราชการของกรมฯ จำนวน 485 คน โดยผู้ที่จะได้รับการพิจารณา
แต่งตั้งเป็นผู้สอบบัญชีจะต้องมีประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านงานสอบบัญชีไม่น้อยกว่า 4 ปี
และเพื่อให้การบริหารงานสอบบัญชีสหกรณ์มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับขนาดของสหกรณ์ และ
เหมาะสมกับสถานการณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงได้มีการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหรือ
บุคคลอื่นเป็นผู้สอบบัญชีสหกรณ์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบบัญชี จำนวน 271 คน
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการปฏิบัติงานสอบบัญชี ผู้สอบ
บัญชีสหกรณ์จะปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานสอบบัญชี ตั้งแต่กระบวนการวางแผนงาน
สอบบัญชี ผู้สอบบัญชี จะทำการศึกษาโครงสร้างธุรกิจ แหล่งเงินทุน ระเบียบ และการดำเนินงาน
ของสหกรณ์ ก่อนการเข้าปฏิบัติงานตรวจสอบบัญชีทุกครั้ง เพื่อทำการประเมินความเสี่ยงในการ
สอบบัญชีของแต่ละประเภทธุรกิจของสหกรณ์ แล้วนำมาจัดทำแผนการสอบบัญชีโดยรวม และ
แนวการสอบบัญชี เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์การตรวจสอบ วิธีการตรวจสอบ การกำหนดช่วงเวลาที่
ต้องตรวจสอบ ด้านการปฏิบัติงานสอบบัญชี ผู้สอบบัญชีเข้าตรวจสอบบัญชีระหว่างปี อย่างน้อย 1
ครั้ง โดยจะเข้าตรวจสอบบัญชีระหว่างปีครั้งแรกก่อนวันสิ้นปีทางบัญชีไม่น้อยกว่า 4 เดือน หาก
พบว่ามีสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่มีปัญหาการทุจริต หรือมีข้อบกพร่อง ผู้สอบบัญชีจะวางแผนเข้า
ตรวจสอบบัญชีระหว่างปีทุกไตรมาส เพื่อติดตาม แก้ไขปัญหาให้ทันต่อสถานการณ์การตรวจสอบ
บัญชีประจำปี
กรณีผู้สอบบัญชีตรวจพบข้อสังเกตที่สหกรณ์ต้องปรับปรุงรายการบัญชี ผู้สอบบัญชีจะเข้า
ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินการเพื่อชี้แจงพร้อมเสนอแนวทางแก้ไขแก่คณะกรรมการดำเนิน
การภายหลังการปฏิบัติงานสอบบัญชีเสร็จสิ้นผู้สอบบัญชีจะทำรายงานการสอบบัญชีระหว่างปีและ
รายงานการสอบบัญชีประจำปี ซึ่งการปฏิบัติงานแต่ละกระบวนการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้
กำหนดให้มีการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีตั้งแต่ ระดับผู้สอบบัญชี ระดับหัวหน้าสำนักงาน
ตรวจบัญชีสหกรณ์ ระดับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1-10 ระดับกองกำกับการสอบบัญชี
สหกรณ์ และสำนักมาตรฐานการบัญชีและการสอบบัญชี เพื่อให้งานสอบบัญชีสหกรณ์เป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องตามพ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.
(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 ระเบียบ คำแนะนำ และมาตรฐานการสอบบัญชี สหกรณ์และ กลุ่ม
เกษตรกรที่ได้รับการตรวจสอบบัญชี สามารถนำผลการตรวจสอบบัญชีและข้อสังเกตจากผู้สอบ
บัญชี ไปใช้ประโยชน์ ปรับปรุงการบริหารจัดการและอำนวยประโยชน์แก่มวลสมาชิกโดยรวม
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้สอบบัญชีพบข้อสังเกตจากการตรวจสอบด้านการเงินการบัญชีจะดำเนินการ
รายงาน ให้นายทะเบียนสหกรณ์ทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ยัง
รายงานข้อสังเกตที่ตรวจพบให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ทราบอีกทางหนึ่งด้วย ในกรณีที่มี
ปัญหาการทุจริต หรือข้อร้องเรียนเกิดขึ้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้กำหนดให้ผู้สอบบัญชีตรวจ
สอบข้อเท็จจริง และวางแผนเข้าตรวจสอบบัญชีระหว่างปีทุกไตรมาส พร้อมรายงานให้อธิบดีกรม
ตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ทราบเป็นระยะ เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาได้
ทันต่อสถานการณ์ นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้มุ่งเน้นให้สหกรณ์ตระหนักถึงความ
สำคัญของการมีระบบการควบคุมภายในที่ดีเพื่อเป็นการป้องปรามการทุจริต รวมทั้งการพัฒนา
ศักยภาพ ผู้ตรวจสอบกิจการของสหกรณ์เพื่อให้ผู้ตรวจสอบกิจการสามารถให้ข้อสังเกตจากการ
ปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายจัดการและคณะกรรมการได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ที่สำคัญคือ
การพัฒนาให้สมาชิกมีความรู้ความเข้าใจ ในหลักการและวิธีการสหกรณ์ได้ตระหนักและมีส่วนร่วม
ในการตรวจสอบการดำเนินธุรกรรมทางการเงินของสหกรณ์และรับรู้ข้อมูลทางบัญชีสหกรณ์ทั้ง
ภาพรวมและของตนเอง
"การตรวจสอบงบการเงินในปัจจุบัน กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการ
สอบบัญชี ที่กำหนดโดยสภาวิชาชีพบัญชี และระเบียบที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด โดยกรมฯ
ได้จัดทำแนวทางการบริหารจัดการงานสอบบัญชีทุกปีงบประมาณ เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสหกรณ์และ
กลุ่มเกษตรกรใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และให้ผู้สอบบัญชีถือปฏิบัติเป็นแนวเดียวกัน โดย
ใช้ในการตรวจสอบสหกรณ์ทุกประเภท จึงเชื่อมั่น ได้ว่าข้อมูลจากการตรวจสอบเชื่อถือได้และเป็น
ไปตามมาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการสอบบัญชีที่กำหนด อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กล่าว.
คำนิยาม
"ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาต
เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจากสภาวิชาชีพบัญชี และมีประสบการณ์ในการเป็นผู้สอบบัญชีของ
บริษัท ที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วอย่างน้อย 5 บริษัท
"บุคคลอื่น หมายความว่า
1. ผู้ที่เคยเป็นผู้สอบบัญชีสหกรณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือ
2. ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบัญชี จากสถาบันการศึกษาที่สภาวิชาชีพ บัญชี
รับรอง โดยต้องมีประสบการณ์ด้านการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี และมี
ประสบการณ์ในการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 50 สหกรณ์